ทานที่เกิดผลน้อยแก่ตนและได้ชื่อว่าทำลายพระศาสนา

๖. กฎให้ไว้แก่สังฆการีธรรมการ…..
สมเด็จพระบรมนารถบพิตร ฯ ดำรัสเหนือเกล้าเหนือกระหม่อมสั่งว่า

แต่ก่อนฆราวาสผู้จะทำทานแก่ภิกษุสงฆ์ โดยต่ำแต่เข้าทับพีหนึ่ง ก็มีผลปรากฎในชั่วนี้ชั่วหน้า เพราะพระภิกษุผู้รับทานนั้นทรงศีลบริสุทธิ์ ฝ่ายฆราวาสผู้จะให้ทานนั้นก็มีปัญญา…..แลผู้ให้ผู้รับทั้งสองฝ่ายสุจริตดีจริง จึ่งให้ผลมากประจักษ์ในชั่วนี้ชั่วหน้าสืบมา

ทุกวันนี้ภิกษุ สามเณร ผู้รับทานรักษาสิกขาบทนั้นก็ฟั่นเฟือน มักมาก โลภ รับเงินทอง ของอันมิควรด้วยกิจพระวินัย สั่งสมทรัพย์สิ่งของ เที่ยวผสมผสานทำการของฆราวาส การศพ การเบญจา เป็นหมอนวด หมอยา หมอดู ใช้สอยอาสาการคฤหัสถ์ แลให้สิ่งของต่าง ๆ แก่คฤหัสถ์ เพื่อจะให้เป็นประโยชน์ จะให้เกิดลาภเลี้ยงชีวิตผิดธรรมมิควรนัก…..

แลภิกษุทุกวันนี้บวชเข้า มิได้กระทำตามพระวินัย ปรนนิบัติเห็นแต่จะเลี้ยงชีวิตผิดธรรม ให้มีเนื้อหนังบริบูรณ์ดุจโค กระบือ…..จะได้เจริญสติปัญญานั้นหามิได้ เป็นภิกษุสามเณรลามกในพระพุทธศาสนา

ฝ่ายฆราวาสก็ปราศจากปัญญา มิได้รู้ว่าทำทานฉะนี้จะเกิดผลน้อยมากแก่ตนหามิได้ มักพอใจทำทานแก่ภิกษุ สามเณร อันผสมผสานทำการของตนจึงทำทาน บางคาบย่อมมักง่าย ถวายเงินทองของอันเป็นอกัปปิยะ มิควรแก่สมณะ สมณะก็มีใจโลภ สั่งสมทรัพย์เลี้ยงชีวิต ผิดพุทธบัญญัติฉะนี้ ได้ชื่อว่าฆราวาสหมู่นั้นให้กำลังแก่ภิกษุโจร อันปล้นพระพุทธศาสนา ทานนั้นหาผลมิได้ ชื่อว่าทำลายพระศาสนา

แต่นี้ไปเมื่อหน้า ห้ามมิให้ภิกษุสามเณรสงเคราะห์ฆราวาส ให้ผลไม้ ดอกไม้ ใบไม้ เป็นต้น แล้วอย่าให้ผสมผสาน ขอกล่าวป่าวร้องเรื่ยไรสิ่งของอันเป็นของแห่งฆราวาสอันใช่ญาติ แล้วอย่าให้ทำการศพ แลทำเบญจการฆราวาสทั้งปวง แล้วอย่าให้เป็นหมอนวด หมอยา หมอดูต่าง ๆ แลให้ยาแก่คฤหัสถ์อันใช่ญาติ แลห้ามอย่าให้พูดใช้สอยนำข่าวสารการฆราวาส แลห้ามบรรดาการทั้งปวงอันกระทำผิดจากพระปาติโมกข์ สังวรวินัย

ภิกษุรูปใดมีอธิกรณ์ข้อใหญ่ สงฆ์พิพากษามิถ่องแท้ เป็นฉายาเงาปาราชิก ควรจะเสียอยู่ข้างการลามกในพระศาสนา เป็นที่สงสัยสงฆ์ทั้งปวงอยู่แล้ว อย่าให้เอาไว้ให้สึกเสีย…..

หนึ่งห้ามฝ่ายฆราวาสทั้งปวง อย่าได้ถวายเงินถวายทองนากแก้วแหวน แลสิ่งขของอันไม่สมควรแก่สมณ เป็นต้น แลทองเหลือง ทองขาว ทองสำฤทธิ์ แก่ภิกษุสามเณร แลห้ามอย่าให้ถวายบาตรนอกกว่าบาตรเหล็กบาตรดิน แลนิมนต์ใช้สอยพระภิกษุสามเณรให้ทำเบญจการศพ แลให้นวดแลทำยา ดูลักษณะ ดูเคราะห์ แลวาดเขียนแกะสลักเป็นรูปสัตว์ แลใช้นำข่าวสารของฆราวาสต่าง ๆ แลห้ามบรรดาการภิกษุสามเณรกระทำผิดพระปาติโมกข์สังวรวินัย…..

แลถ้าพระราชาคณะ เจ้าอธิการ ภิกษุ สามเณร ฆราวาส สังฆการีธรรม การผู้ใดมิได้ทำตามพระราชกำหนดกฎหมายนี้ แลละเมิดเสีย มิได้กำชับว่ากล่าวกัน กระทำให้พระศานาเศร้าหมองดุจหนึ่งแต่ก่อนนั้น ฝ่ายพระราชาคณะ พระภิกษุสามเณร จะเอาญาติโยมเป็นโทษ ฝ่ายฆราวาสทั้งปวง จะให้ลงพระราชอาญาเฆี่ยนตามโทษานุโทษ

กฎให้ไว้ ณ วันอาทิตย์ เดือนแปด ขึ้นสิบห้าค่ำ จุลศักราชพันร้อยสี่สิบห้า (พ.ศ. ๒๓๒๖) ปีเถาะ เบญจศก

[url=http://www.songphuket.org/index.php?option=com_content&view=article&id=89&Itemid=96]กฎหมายพระสงฆ์ของไทย[/url]

ใส่ความเห็น